ร้านอาหารที่มีปัญหาด้านความร้อน หลังคาเป็นหลังคาเหล็กไม่ได้ติดฉนวนอากาศร้อนมาก แม้จะพยายามแก้ปัญหาโดยการติดพัดลมแล้วก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น แต่กลับพัดเอาลมร้อนเข้ามาในร้านยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก จะทำอย่างไรดี จึงจะช่วยลดหรือป้องกันความร้อนที่มาจากหลังคาเหล็กได้ ร้านอาหารหลายร้านมีปัญหาความร้อนแบบนี้ ไม่เพียงแต่ร้านที่มีลักษณะเปิดโล่งเท่านั้น แม้แต่ร้านอาหารที่ติดแอร์ก็มีปัญหาเรื่องความร้อนถ้าไม่ได้ติดฉนวนกันร้อนที่หลังคาโดยเฉพาะเวลากลางวันจะร้อนมาก ทำให้ติดแอร์แล้วไม่เย็นแถมยังเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก

ทางบริษัทฯแก้ปัญหาด้วยการลดความร้อนจากหลังคาเหล็กโดยใช้ฉนวนกันความร้อน Miron A Plus ติดตั้งบริเวณใต้หลังคาด้วยวิธีการยิงสกรูเข้ากับแป ซึ่งจะทำให้ฉนวนป้องกันและลดการส่งผ่านความร้อนจากหลังคาได้สูงถึง 90% ทั้งยังปลอดภัยเหมาะกับร้านอาหาร เพราะไม่มีปัญหาฝุ่นผงหรือเศษฉนวนหลุดร่วงลงมาภายในร้านและด้วยวิธีการติดตั้งด้วยสกรูทำให้ฉนวนสามารถใช้งานได้นานไม่มีหลุดร่วงเพราะยึดฉนวนเข้ากับโครงหลังคาด้วยสกรูพร้อมแหวนรอง 

หลังจากที่ทางบริษัทฯ เข้าทำการติดตั้งฉนวนเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีการนำข้อมูลอุณหภูมิที่เก็บไว้ โดยเป็นอุณหภูมิบริเวณใต้หลังคาก่อนติดฉนวน และอุณหภูมิใต้หลังคาภายหลังติดฉนวน ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เริ่มมีแดดคือประมาณ  7.00 โมงเช้า ถึงเวลาที่แสงแดดน้อยลงในเวลา 18.00น

อุณหภูมิช่วงกลางวันสูงมากถึงเกือบ 37 องศาเลยทีเดียว อากาศภายในร้านร้อนอบอ้าว และการติดพัดลมยิ่งทำให้ลมร้อนที่มาจากหลังคากระจายไปทั่วร้าน

หลังจากติดฉนวนแล้ว อุณหภูมิในร้านอาหารช่วงกลางวัน (ช่วง On Peak) ฉนวนกันร้อน Miron A Plus ช่วยลดอุณหภูมิลงไปสูงถึง 5 องศา เลยทีเดียว และเมื่อดูความชันของกราฟทั้ง 2 ช่วง จะเห็นว่าเมื่อติดฉนวนกันร้อนแล้ว อุณหภูมิจะไม่สูงขึ้นเร็วมาก แต่ฉนวนกันร้อนจะช่วยชลอการส่งผ่านความร้อน ทำให้อุณหภูมิภายในร้านไม่สูงขึ้นพรวดพราด แต่จะค่อยๆไต่ระดับสูงขึ้นทีละนิดๆ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเย็น (ช่วง Off Peak) อุณหภูมิภายในร้านที่ติดฉนวนก็ยังต่ำกว่าช่วงที่ไม่ได้ติดฉนวนอยู่ดี การติดฉนวนกันความร้อนจึงทำให้อุณหภูมิต่ำกว่าช่วงที่ไม่ได้ติดฉนวนตลอดเวลา

สุดท้ายนี้ จากตัวเลขในกราฟจะเห็นว่า อากาศบริเวณใต้หลังคาก่อนจะติดฉนวนนั้นร้อนและมีอุณภูมิที่สูงอยู่พอสมควร หลายคนอาจคิดว่าอากาศหน้าร้อนประเทศไทยก็จะประมาณนี้ แต่ความจริงแล้วงานนี้ทางบริษัทฯได้เข้าไปเก็บข้อมูลและติดตั้งในเดือนตุลาคม (เป็นช่วงปลายหน้าฝนต้นหน้าหนาว) เพราะฉะนั้นในหน้าร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอีกและจะสูงขึ้นในทุกๆปี เพราะฉะนั้นการติดฉนวนกันความร้อนจึงช่วยป้องกันความร้อนและลดความร้อนลงอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นตัวช่วยที่ทำให้ประหยัดค่าไฟ หรือประหยัดพลังงานของอุปกรณ์ทำความเย็นภายในร้านไม่ว่าจะเป็นแอร์หรือพัดลมก็ตาม